วันจันทร์, กุมภาพันธ์ 13, 2560

องค์ความรู้"เพศวิถี"ไม่ขัดหลักศาสนา หยุดทำลาย"ค่าความเป็นคน" ผู้ก่อตั้ง"ห้องเรียนเพศวิถี"เรียกร้องนักสันติวิธี 3 จว.ใต้ ยืนยันความปลอดภัย




https://www.youtube.com/watch?v=sv-rbrJuZE8

องค์ความรู้"เพศวิถี"ไม่ขัดหลักศาสนา หยุดทำลาย"ค่าความเป็นคน" (ตอนที่ 1 )

jom voice

Published on Feb 12, 2017

ดร.อันธิฌา แสงชัย นักวิชาการด้านสิทธิมนุษยชน ผู้ก่อตั้งห้องเรียนเพศวิถี ให้สัมภาษณ์ Thaivoice (ตอนที่ 1 ) กรณี"ห้องเรียนเพศวิถี"ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส กลายเป็นประเด็นโต้เถียง ขัดแย้งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เจตนาของการจัดห้องเรียนเพศวิถีขึ้นในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเคร่งครัดด้วยหลักศาสนาก็เพื่อต้องการเปิดพื้นที่สร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศ แม้ว่าเรื่องนี้จะใช้หลักศาสนาเยียวยาได้แต่ในทางปฎิบัติกลับไม่มี ทั้งที่ในสังคมมุสลิมมีความหลากหลายทางเพศมากขึ้น แต่คนกลุ่มนี้กลับไม่มีที่ยืนถูกมองเป็นปัญหา ดังนั้นควรจะสร้างพื้นที่การยอมรับและให้คนเหล่านี้มีพื้นที่และใช้ชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ไม่ใช่ผลักให้เขาต้องกลายเป็นคนอื่น และยืนยันว่าองค์ความรู้เรือ่งเพศวิถีไม่ได้จูงใจ โน้มแน้วให้เกิดคนที่มีความหลากหลายทางเพศมากขึ้น และความรู้นึ้ก็ไม่ขัดต่อหลักศาสนาอิสลามด้วย

ooo

ผู้ก่อตั้ง"ห้องเรียนเพศวิถี"เรียกร้องนักสันติวิธี 3 จว.ใต้ ยืนยันความปลอดภัย



https://www.youtube.com/watch?v=nckPaXTqoCE

jom voice

Published on Feb 12, 2017

ดร.อันธิฌา แสงชัย นักวิชาการด้านสิทธิมนุษยชน ผู้ก่อตั้งห้องเรียนเพศวิถี ให้สัมภาษณ์ Thaivoice (ตอนจบ ) กรณี"ห้องเรียนเพศวิถี"ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส กลายเป็นประเด็นโต้เถียง ขัดแย้งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และนำไปสู่ความคิดที่ใช้ความรุนแรงในหมู่นักกิจกรรมด้านสันติภาพและนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนด้วยกันว่า สะท้อนความล้มเหลวของกระบวนการสร้างสันติภาพ สันติวิธี และการยอมรับในความแตกต่างหลากหลายในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เท่ากับที่ผ่านมาเป็นการต่อสู้เรียกร้องบนอัตลักษณ์ที่คับแคบหรือไม่ ดังนั้นขอให้ตั้งสติ และร่วมกันสร้างความปลอดภัย หลักประกันสำหรับคนทำงานด้านสันติภาพและสันติสุขในพื้นที่ ไม่ควรจะถูกเพิกเฉยกับคนที่ทำงานด้านความหลากหลายทางเพศที่กำลังถูกเกลียดชัง หรือความไม่พอใจจากคนที่ไม่เข้าใจและไม่รู้

ooo

นักวิชาการ คนส. วอนยุติคุกคามผู้เห็นต่าง ปม 'ห้องเรียนเพศวิถี' ชายแดนภาคใต้

Mon, 2017-02-13 17:13
ที่มา ประชาไท


สารจากเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง กรณี รายการ ก(ล)างเมือง ตอน "ห้องเรียนเพศวิถี" ชี้แดนภาคใต้เป็นพื้นที่ที่มีการเรียกร้องให้มีการยอมรับความแตกต่างหลากหลายทางศาสนา-ชาติพันธุ์ในบริบทของรัฐไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ “เพศวิถี” ก็เป็นความแตกต่างที่สำคัญอีกประการที่ควรต้องคำนึงถึง เช่นกัน หวังสามารถเชื่อมโยงการแลกเปลี่ยนพูดคุยกันได้



13 ก.พ. 2560 รายการ ก(ล)างเมือง ตอน "ห้องเรียนเพศวิถี" ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่องไทยพีบีเอส เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมา ได้ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ซึ่งในแง่หนึ่งเป็นสิ่งที่น่ายินดีเพราะก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนพูดคุยในประเด็นเรื่องเพศในสังคมไทยที่ยังมีปัญหาต้องขบคิดและแก้ไขร่วมกันอีกมาก ทว่าขณะเดียวกันก็มีความน่าวิตกกังวลเพราะการแสดงความคิดเห็นจำนวนหนึ่งโดยเฉพาะที่ผ่านทางสื่อทางสังคม เช่น Facebook มีลักษณะเป็นการใช้คำพูดที่ก่อเกิดความเกลียดชัง (hate speech) และยุยงให้เกิดการใช้ความรุนแรงทั้งกับผู้จัดและผู้เข้าร่วมในกิจกรรมที่รายการดังกล่าวนำมาเผยแพร่ บนฐานที่ว่าได้ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงกับสังคมมุสลิมซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งมีวิถีชีวิตอยู่บนหลักการของศาสนาอิสลามอย่างเคร่งครัด

ล่าสุดวันนี้ (13 ก.พ.60) เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) ได้เผยแพร่ สารจาก คนส. กรณีดังกล่าว โดยระบุว่า เครือข่ายโดยเฉพาะในส่วนที่อยู่ในพื้นที่และรับรู้เรื่องราวมาแต่ต้น มีความรู้สึกห่วงใยในสถานการณ์ดังกล่าว เนื่องจากจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่ที่มีความอ่อนไหวและเปราะบางในประเด็นทางศาสนา ซึ่งสามารถถูกพลิกผันเป็นความขัดแย้งและกลายเป็นหนึ่งในเงื่อนไขและปัจจัยที่ก่อให้เกิดความรุนแรงในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง พวกเราจึงขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในครั้งนี้ซึ่งเป็นประเด็นใหม่ในพื้นที่ด้วยเหตุด้วยผลบนหลักการทางศาสนา ความเป็นมนุษย์ และมิตรไมตรีที่มีต่อกัน เพื่อไม่ให้ความขัดแย้งกลายเป็นเงื่อนไขซึ่งอาจบานปลายไปสู่ความรุนแรง ดังนี้ 


1) “เพศวิถี” เป็นประเด็นละเอียดอ่อนสำหรับสังคมมุสลิมเนื่องจากเป็นประเด็นที่มีการระบุไว้ในคำสอนของศาสนา กระนั้นคุณค่าประการสำคัญของจริยธรรมในศาสนาอิสลามคือการมีความอดทนอดกลั้น (ซอบัร หรือ Tolerance) ต่อผู้ที่มีความเห็นต่าง และการตักเตือนกันด้วยความสุภาพและความเมตตา (เราะฮ์มะฮ์ หรือ Compassion) ด้วยเหตุดังกล่าว พวกเราจึงใคร่ขอให้ยุติการติดตาม ไล่ล่า ข่มขู่และคุกคามผู้ที่มีความเห็นต่าง ซึ่งเป็นแนวทางที่ขัดกับคุณค่าประการสำคัญของจริยธรรมในศาสนาอิสลามดังกล่าวโดยสิ้นเชิง

2) “มนุษย์” มีสิทธิที่จะมีชีวิตโดยไม่ถูกละเมิดโดยมนุษย์ด้วยกัน และต่างมีศักดิ์ศรีในความเป็นมนุษย์อย่างเท่าเทียมกันไม่ว่าจะมีความแตกต่างกันในเรื่องใดๆ ก็ตาม นอกจากนี้ แก่นคำสอนของทุกศาสนาต่างให้ความคุ้มครองและยืนหยัดอยู่บนหลักการพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ ดังนั้น พวกเราจึงขอให้ทุกฝ่ายตระหนักและยึดมั่นในคุณค่าพื้นฐานของความเป็นมนุษย์โดยไม่พยายามที่จะมุ่งทำร้ายผู้อื่นที่มีความเห็นหรือการปฏิบัติที่ต่างออกไปจากตน

3) การแสดงความคิดเห็นของชาวมุสลิมต่อประเด็น “เพศวิถี” ในกรณีดังกล่าวมีความหลากหลาย และงานทางวิชาการจำนวนหนึ่งได้ชี้ให้เห็นว่า “เพศวิถี” เป็นประเด็นที่เกิดขึ้นในทุกสังคมรวมทั้งในสังคมมุสลิม พวกเราจึงเห็นว่าหากสังคมมุสลิมได้มีการแลกเปลี่ยนพูดคุยกันอย่างจริงจังฉันมิตรเกี่ยวกับประเด็น “เพศวิถี” ในทัศนะอิสลามกับกลุ่มศึกษาเรื่อง “เพศวิถี” ก็จะยังประโยชน์อย่างยิ่งทั้งในด้านองค์ความรู้เพื่อสร้างความเข้าใจระหว่างกัน ตลอดจนแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมให้กับทุกฝ่าย

4) จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้มีการยอมรับในความจำเพาะและความแตกต่างหลากหลายทางศาสนาและชาติพันธุ์ในบริบทของรัฐไทยมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ “เพศวิถี” เป็นความจำเพาะและความแตกต่างที่สำคัญอีกประการที่ควรต้องคำนึงถึง พวกเราจึงเห็นว่าหากผู้เกี่ยวข้องสามารถเชื่อมโยงการแลกเปลี่ยนพูดคุยในประเด็นนี้เข้ากับประเด็นหลักในพื้นที่ได้ ก็จะช่วยหนุนเสริมการเคลื่อนไหวเรียกร้องเรื่องความจำเพาะและความแตกต่างหลายในพื้นที่ให้มีความเข้มแข็งและประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น

"จึงขอส่งสารข้างต้นมายังทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องด้วยความห่วงใยในสถานการณ์ความอ่อนไหวเปราะบางที่เกิดขึ้น และเชื่อมั่นว่าพวกเราจะสามารถก้าวพ้นสถานการณ์นี้ร่วมกันได้ด้วยแนวทางแห่งสันติ มิตรไมตรี และการเคารพซึ่งกันและกัน" เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง ระบุตอนท้าย


เรื่องที่เกี่ยวข้อง:
นักกิจกรรมเรียกร้องแลกเปลี่ยนเรื่องความหลากหลายทางเพศพื้นที่ชายแดนใต้อย่างสร้างสรรค์