วันพฤหัสบดี, ตุลาคม 27, 2559

วันนี้ขอเอาข้อเขียนของธนาพล อิ๋วสกุล มาแชร์หน่อย เขาว่าพวกเจ้าสัวใหญ่ๆ บอกเศรษฐกิจไทยยุค คสช. ดีโลด แต่ปูนซีเมนต์ไทย ซึ่งเป็นของสำนักงานทรัพย์สินฯ กลับเห็นว่า 'บักโกรก'





วันนี้ขอเอาข้อเขียนของธนาพล อิ๋วสกุล มาแชร์หน่อย

เขาว่าพวกเจ้าสัวใหญ่ๆ บอกเศรษฐกิจไทยยุค คสช. ดีโลด

แต่ปูนซีเมนต์ไทย ซึ่งเป็นของสำนักงานทรัพย์สินฯ กลับเห็นว่า 'บักโกรก'


https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/1277305975669572

แล้ว อย่างนี้เชื่อใครดี

.....





แบงค์กรุงุเทพ เซ็นทรัล เบียร์ช้าง บอกเศรษฐกิจคณะรัฐประหารดี
แต่ปูนใหญ่ ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ บอกเศรษฐกิจบักโกรก

อ่านข่าวนี้
เศรษฐกิจไทยยังแกร่ง ภาคธุรกิจมั่นใจเดินหน้าลงทุน
http://www.now26.tv/view/91032
บรรดาเจ้าสัวได้ออกมาการันตีเศรษฐกิจคณะรัฐประหารดี

1. แบงค์กรุงุเทพ
นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า เศรษฐกิจขณะนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นกังวล เชื่อว่ารัฐบาลจะดูแลได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยธนาคารกรุงเทพ ยังไม่จำเป็นต้องปรับแผนธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ ส่วนแผนธุรกิจในปีหน้ายังอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ ภายในธนาคาร

2. เซ็นทรัล
นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า กลุ่มเซ็นทรัลยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศต่อเนื่องปีนี้และปีหน้า โดยปี 2559 กลุ่มเซ็นทรัลเชื่อมั่นประมาณการเติบโตของยอดขายจากปีที่แล้วมากกว่า 20% หรือคิดเป็นมูลค่ายอดขายรวมประมาณ 3.2 แสนล้านบาท
"เราเชื่อว่าทุกภาคส่วนจะร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้แข็งแกร่งและก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงด้วยการร่วมแรงร่วมใจกัน เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีต่อพระพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งพระองค์จะสถิตอยู่ในดวงใจของชาวไทยทุกคนตลอดไป"

3. เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ บริษีทในเครื่อของเสี่ยเจริญ เจ้าของเบียร์ช่้าง
กลุ่มสินค้าบริโภค อย่างบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือบีเจซี ที่นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บีเจซี กล่าวว่า บริษัทยังคงเดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง ทั้งโรงงานผลิตกระป๋อง และโรงงานผลิตขวดแก้ว มูลค่า 2,000 ล้านบาท และยังอยู่ระหว่างเจรจาซื้อกิจการธุรกิจออนไลน์ เพื่อขยายธุรกิจในไทยและเวียดนาม โดยประเมินรายได้ปีนี้จะมีมากกว่า 1 แสนล้านบาท เติบโต 3 เท่าจากปีก่อนที่มีรายได้ว่า 4 หมื่นล้านบาท เพราะมีรายได้เพิ่มหลังจากซื้อกิจการห้างบิ๊กซีมา

แต่นายรุ่งโรจน์ รังสิโยถาม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ เอสซีจี ที่มีสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ถือหุ้นใหญ่ 369,070,600 หุ้น คิดเป็น 30.76 %
http://www.set.or.th/set/companyholder.do…

กลับ เปิดเผยว่าผลประกอบการช่วง 9 เดือนของปีนี้ (มกราคม-กันยายน) เอสซีจีมีรายได้จากการขาย 323,829 ล้านบาท ลดลง 3% จากช่วงเดียวกันของปี 2558 สาเหตุหลักมาจากความต้องการปูนซีเมนต์ในประเทศชะลอตัว โดยยอดขายปูนซีเมนต์ของเอสซีจี 9 เดือน ติดลบ 1% และคาดยอดขายของบริษัทในช่วงไตรมาส 4/2559 น่าจะติดลบเช่นกัน สอดคล้องภาพรวมความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศทั้งปีคาดจะติดลบ 2-3% จากปริมาณการใช้ปี 2558 อยู่ที่ 40 ล้านตัน

“เอสซีจีประเมินภาพรวมยอดขายตลอดทั้งปี 2559 น่าจะติดลบ 3-5% แต่ต้องติดตามแนวโน้มการลงทุนภาคเอกชน และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐว่าจะมีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นหรือไม่”นายรุ่งโรจน์ กล่าว

เอสซีจีซึม! 9 เดือนยอดขายลด คาดไตรมาส4ชะลอตัวอีก รวมทั้งปีอาจลบสูงถึง5%
http://www.matichon.co.th/news/336069


Thanapol Eawsakul